แข่งรถแดร็ก กับความสนุกที่คนไทยชอบ
แข่งรถแดร็ก Drag Racing มีรถที่นิยมแข่งขัน อยู่สองประเภทคือ รถยนตร์ และรถจักรยานยนต์ ลักษณะของการแข่งขัน ประเภทนี้คือสนาม จะเป็นลักษณะ ทางตรงที่ใช้การแข่งขัน ที่มีระยะแค่ 402 เมตรเท่านั้น ว่าใครถึงเส้นชัยก่อน เป็นฝ่ายชนะไป
และก่อนที่จะ เกิดการแข่งขัน เป็นช่วงที่ทุกคน ต่างตั้งหน้าตั้งตารอ แข่งรถจิมทาน่า ช่วงวอมเครื่อง ที่จะมีเทคนิค การวอมเครื่องด้วย การเบรินยางเสียงนั้น จะดังสนั่นท่อแต่ละคัน ที่ทำการวอมอัพ เป็นสิ่งที่ น่าหลงไหลมาที่สุด เพราะช่วงที่ มีการทำการเบรินเอ้าท์เครื่องยนต์
ถือว่าเป็นอีกสีสัน ของการแข่งขัน กันเลยทีเดียว เพราะผู้ที่ชื่นชอบ การเข้าชมการแข่งรถแดร็ก ก็เพราะหลายคน ต่างหลงไหล ลีลาและเสียง ของการเบรินล้อยาง ของการวอมอัพ จากเครื่องยนต์ ที่เกิดควันคละคลุ้ง ไปทั่วบริเวณ และเสียงของท่อไอเสีย แข่งแนสคาร์
แข่งรถแดร็ก มีลักษณะเป็นอย่างไร ?
ที่แต่ละคันที่ดังกระหึ่ม ถือเป็นเอกลักษณ์ และจุดเด่น รถแดร็กไทย ของการแข่งขันนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับการแข่งขัน รถแดร็กนี้ มีหลายคนมีกจะ ทำการเลียนแบบ โดยการแข่งขัน ที่เรียกกันว่า สตรีทแดร็ก Street Drag นับว่าเป็นเรื่องที่ ผิดกฏหมาย อีกทั้งเป็นสิ่งที่
ทำให้เรื่องการแข่งรถ กลายเป็นเรื่องของ เด็กเหลือขอ แดร็กบุหรี่ไฟฟ้า และพวกไม่เอาไหน ชอบสร้างความเดือดร้อน ให้กับผู้คน การแข่งขันDrag Racing เทคนิคของการแข่งขัน จะเป็นการรออยู่ที่สุด สตาร์ทก่อนที่จะทำการ เร่งเครื่องให้ถึงขีดสุด จนดูเหมือนกับ
การกระชากเมื่ออกตัว เพราะการเร่งเครื่องยนต์ ให้เหมือนกับ กติกาแข่งรถทางตรง ถูกรั้งไว้ก่อนที่จะถูก ปล่อยออกจากจุดสตาร์ท แล้วใครที่วิ่งไปถึง ด้วยเวลา ที่น้อยที่สุด จะเป็นฝ่ายชนะไปนั่นเอง การจับเวลาจะใช้ ระบบเซนเซอร์ จับความเคลื่อนไหว ของแต่ละเลน
แข่งรถเซอร์กิต ทำไมถึงได้รับความนิยม ?
สำหรับเสาสัญญานไฟนั้น เรียกกันว่า Staged รถแดร็กมอเตอร์ไซค์ แต่หลายคนก็เรียกกันว่า ต้นคริสมาส สำหรับลักษณะของสัญญานไฟ เพราะจุดออกตัวนี้เอง ที่จะเป็นตัววัด ถึงความสามารถ ของรถยนต์ ที่ออกวิ่งไป ในช่วงของการพุ่งตัวนั้น ถือว่าสำคัญสุดสุด สำหรับสัญญานไฟ
ที่บอกการปล่อยตัว จะมีดวงไฟสีเหลือง 3 ดวง สีเขียวจำนวน 1 ดวงและสีแดงจำนวน 1 ดวงอีกเช่นกัน โดยความหมายของไฟ แต่ละสีที่เรียกกัน ก็จะแตกต่างกันออกไป สำหรับไฟ ที่อยู่จุดสตาร์ท รถแดร็กบังคับ ที่ในจุดปล่อยตัวนั้น เรียกกันใน ภาษาสากลคือ Three Amber Light
โดยในช่วง การที่จะปล่อยตัวนั้น ที่ถนนจะมีระบบ เซนเซอร์โดยจะจับ รถแดช ที่ล้อหน้า และล้อหลังของรถ สังเกตุได้ว่า ช่วงที่เบรินล้อ จะเห็นรถที่ ยุดออกตัว เร่งเครื่องอย่างรุนแรง วอวอัพกันสุดสุด แต่จะมีการค่อยๆ ขยับไปเพื่อให้ล้อนั้น เข้าช่วงเซอร์ และให้สังเกตุ
แข่งรถดริฟ เป็นการแข่งขัน ที่นิยมกันมาก ในประเทศญี่ปุ่น
ที่สัญญานไฟสีเหลือง ที่จะขึ้นไล่มา ทีละดวง นั่นคือรถพร้อมแล้ว รถแดชของเล่น เรียกกันในภาษา แข่งรถแดร็กว่า “เตรียมเผ่น” และเมื่อไฟ วิง่มาที่สีเขียวเมื่อไหร่ ก็เรียกกันว่า “พร้อมเผ่น” และมีการบันทึก สถิติแบบที่เรียกว่า ET (Elapse Time) ในประเทศไทย
มีการจัดการแข่งรถแดร็ก ที่เป็นลักษณะ ของการแข่งขัน ที่เรียกกันว่า เกมรถแดร็ก ควอเตอร์ไมล์ (Quarter Mile) กับรายการของ Isuzu กับสนามดัง คลอง5 ซึ่งมีการจัด การแข่งขันต่อเนื่อง กันมาอย่างยาวนาน สำหรับการแข่งขัน ที่เรียกกันว่า เป็นกฏกติกา
กันมาอย่างยาวนาน รถยนต์ของแต่ละคัน ที่ทำการเบรินยาง เพื่อรอเทคตัว ออกวิ่งนั้น เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมต้องมีการ บอกไลน์ในการออกตัวกัน รถแดร็กมีฟาล์วไหม? คำถามนี้หลายคน อาจจะสงสัย เรื่องของจับสัญญาน โดยจะมีระบบเซนเซอร์
แข่งรถแดร็ก กับการแข่งรถทางเรียบสุดเร้าใจ
ที่เรียกกันว่า Guard Beam Sender ซึ่งตัวนี้นี่เอง จะเป็นตัวที่เรอ่มจับเวลา เมื่อตอนที่รถ ออกสตร์ทนั่นเอง โดยการออกตัวนี้ จะสามารถบอกได้ว่า รถคันนั้น ฟาล์วหรือไม่ เพราะการเข้าชิงไฟ รถแดร็กpantip ที่เกิดขึ้นนั้น จะมีการเชื่อม สัญญานกับ สัญญานไฟนั่นเอง
เพราะรถที่ค่อยๆ ทำการขยับมานั้น ถ้าหากว่า มีการพุ่งไปที่ ระบบเซนเซอรก่อน ที่จะเป็นไฟเขียวนั้น ไฟแดงที่จุดสัญญาน ก็จะขึ้นแดงในทันที สำหรับการแข่งรถแดร็ก ในประเทศไทยนั้น รถแดร็กที่เร็วที่สุดในโลก มีอยู่หลายสนาม ที่ทำการจัดการแข่งขัน ให้เกิดขึ้นได้ จากอดีต จนถึงปัจจุบัน มีดังต่อไปนี้
- สนามอข่งบางกอกแดร็ก อเวนิว (Bankok Drag Avenue) อยู่ที่คลอง 5 จังหวัดประทุมธานี มีการจัดการแข่งขัน ทุกวันเสาร์เวลา 18:00-01:00
- สนามสระบุรี แดร็กเรสซิ่ง (Saraburi Drag Racing) จังหวัดสระบุรี
- สนามพนมแดร็กเรสซิ่ง (Phanom Drag Racing) จังหวัดฉะเชิงเทรา
- สนามบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แดร็กสเตอร์ แทร็ก (Buriram United Dragster Track) จังหวัดบุรัรัมย์
- สนามพีระเซอร์กิจ (Bira International Circuit) หาดพัทยา บางละมุง จังหวัดชลบุรี
ซึ่งการแข่งขัน ของแดร็กนั้น มีหลายรูปแบบ และที่นิยมกัน โดยส่วนมาก จะเป็นในลักษณะ การดริฟโค้ง Drift King ที่ประเทศญี่ปุ่น และยุโรป จะเป็นที่นิยม แต่สำหรับ ในประเทศไทย จะนิยมเป็นรูปแบบ ที่เรียกกันว่า แข่งวัดความเร็ว ทางตรงนั่นเอง Quarter Mile
แต่ปัจจุบัน ก็มีบางสนาม ที่เริ่มการแข่งขัน ที่เรียกว่า ดริฟโค้ง กันบ้างแล้ว โดยเฉพาะสนามใหญ่ ของทางจังหวัด บุรีรัมย์ และจังหวัด ชลบุรี เรียกได้ว่า รูปแบบของการแข่งขัน การเปิดโอกาส ให้นำรถสาย แดร็กเข้าสู่สนาม ให้ได้ร่วมแข่งขัน และเริ่มมี สายดริฟโค้ง ที่สร้างความตื่นเต้น ให้กับเหล่านักซิ่ง ที่ชื่นชอบความเร็ว ให้ได้ชทกันแล้ว ปัจจุบันนี้